fbpx

รีวิวเจาะลึก Lancôme Advanced Génifique Sensitive ตัวใหม่ดีไหม

สวัสดีจ้าทุกคน กลับมาอีกครั้งสำหรับการรีวิวสกินเเคร์ระดับเคาน์เตอร์แบรนด์อันโด่งดัง นั่นคือแบรนด์ Lancôme ซึ่งแน่นอนว่ารีวิวนี้ต้องไม่ธรรมดา และไม่เหมือนใคร เพราะเทพได้ทำการเจาะลึกส่วนผสมให้ได้ชมกัน ว่ารุ่นใหม่ที่ทางเเบรนด์ออกมานั้นมันดีจริงไหม คุ้มค่าเเก่เงินที่จะลงทุนหรือเปล่า ถ้าพร้อมแล้วไปรู้จักกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้กันเลยดีกว่า

Lancôme Advanced Génifique Sensitive Youth Activating + Sensitivity Soothing Serum คือชื่อของผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ว่านี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าคำเคลมของเขาสวยหรูมาก เข้ามาตอบโจทย์สำหรับหนุ่มๆสาวๆในคอนเซปที่ว่า “วันผิวไม่ดี” ไม่ได้หมายความว่าคนที่ผิวเเพ้ง่ายเท่านั้นที่ควรใช้ แต่หมายถึงผิวปกตินี่แหละที่อาจมีบางวันที่ผิวแห้งบ้าง ลอกบ้าง มีผดผื่นบ้าง แต่ไม่ได้เป็นตลอดให้กลับมาแข็งเเรง และทนต่อสิ่งเร้ามากขึ้นนั่นเอง พูดง่ายๆเลยคือตัวนี้มีคุณสมบัติปลอบปโลมผิวที่ดีเยี่ยมนั่นเอง รวมไปถึงให้ความชุ่มชื้นผิวที่เป็นพื้นฐานของผิวเเข็งเเรงอีกด้วย

ความเก๋ของลังโคมสูตรใหม่ Advanced Génifique Sensitive นี้เรียกได้ว่าทำออกมาน่าประทับใจมากโดยประกอบไปด้วย 2 ส่วนคือ

1. Activator หลอดสีฟ้าด้านในขวด มีส่วนผสมของสารสกัด Probiotic อยู่ ซึ่งนางเป็นสารที่ช่วยในเรื่องการปลอบประโลมผิวชนิดใหม่ + กับวิตามินอี

2. Base อันนี้เป็นสารที่อยู่ในขวดสีใสๆ มีคุณค่าสารอาหารต่อผิวที่ดีมากๆ ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาเจาะลึกในขั้นตอนต่อไป แต่ก่อนอื่นเราต้องนำมาผสมกันซะก่อน

3 ขั้นตอนในการผสม Advanced Génifique Sensitive มีดังนี้

  1. กดและหมุนฝาแท่งที่เป็นหลอดสีฟ้าเพื่อเป็นการผสมสารที่อยู่ในหลอกเข้ากับเบสที่อยู่ในขวด
  2. เขย่าขวดเพื่อกระจายสูตรอย่างทั่วถึง
  3. ถอดแท่งบรรจุภัณฑ์สีฟ้าที่เรากดผสมออกมา แล้วใส่ฝาสีเงินเข้าแทนที่

***เมื่อผสมแล้วควรใช้ให้หมดภายใน 2 เดือน หรือ 60 วัน***

ภาพตอนที่ส่วนผสมกำลังไหลออกมาผสมกับตัวเบสด้านนอกช่างสวยงามอะไรเยี่ยงนี้

ต้องยอมรับว่า Advanced Génifique Sensitive ทำเนื้อมาได้ดีมากๆ โดยมีลักษณะเหลว แต่เข้มข้น เมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้วให้ความรู้สึกชุ่มชื้นผิวกำลังดี ไม่เหนอะหนะ และที่สำคัญ ซึมไวอีกต่างหาก จุดนี้คนผิวมันน่าจะชอบเลยแหละ ส่วนคนผิวแห้งถ้าให้เทพเดานะคุณก็น่าจะชอบเช่นเดียวกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาดูการวิเคราะห์ส่วนผสมกันดีกว่า 

Ingredients : ส่วนผสม

เริ่มจากตัว Activator สีฟ้าที่อยู่ในหลอดก่อนเลย มีส่วนผสมของสารบำรุงอย่าง

  • Tocopherol (วิตามินอี) เป็น Antioxidant
  • Ferulic acid ก็เป็น Antioxidant
  • น้ำคั้นจาก Centaurea cyanus flower หรือ ดอก Corn flower ลดการอักเสบ และเป็น Antioxidant
  • กรดอะมิโน Arginine ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

ดูรวมๆแล้วถือว่าเป็นส่วนผสมที่โอเคอยู่นะ แต่ในส่วนที่มาที่ทำให้เมื่อผสมแล้วใช้ได้ประมาณ 2 เดือนอาจเนื่องมาจากกลัวสาร Ferulic acid เสียก็เป็นไปได้ เพราะมีความเสถียรต่ำเมื่อเอามารวมกับสารอื่นๆ (อันนี้เดานะ) ส่วนตัว Base ที่อยู่ด่านล่างนั้น เป็นส่วนผสมของสารบำรุงมากมายหลายชนิดในเบสที่เป็นน้ำดังนี้

  • กลุ่มหมักๆ ได้แก่ Bifida ferment lysate, lactobacillus ferment, yeast extract พวกนี้จะเน้นฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน รวมไปถึงเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว
  • สารสกัดจากพืช มี สารสกัดจากสับปะรด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ผลัดเซลล์ผิว และเป็น Antioxidant กับสารสกัดจาก Edelweiss (Leontopodium alpinum) ที่เจอในเครื่องสำอางหลายๆสูตรของลังโคม ตัวนี้เคลมว่าเป็นสารกสัดจากดอกไม้บนเทือกเขาแอลป์ ประกอบด้วย Antioxidant ที่ดีมากมายหลายชนิด และช่วยฟื้นฟูผิวจากรังสี UV (เอาจริงๆควรใช้กลางวันเสริมฤทธิ์กันแดดด้วยซ้ำ)
  • Madecassoside เป็นสารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากบัวบก มีราคาแพง มีประโยชน์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นฤทธิ์ต้านการอักเสบ เป็น Antioxidant ชะลอวัย และช่วยในการสังเคราะห์ Collagen ของผิว
  • Hyaluron และ โปรตีนจากข้าวสาลี เพิ่มความชุ่มชื้น
  • สารในกลุ่มกรดอะมิโนหลายชนิด คือ Betaine, Arginine, Methionine, Glycine ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และเป็นสารตั้งต้นให้ผิวเอาไปใช้ประโยชน์
  • เอนไซม์ Papain ที่แยกสกัดจากมะละกอ ช่วยในการผลัดผิว (มีทั้งสับปะรด มะละกอ และ Lactobacillus ferment น่าจะผลัดผิวกันสนุกสนาน 55+)
  • Adenosine มีประโยชน์ในการลดริ้วรอย

โดยภาพรวมแล้วสิ่งที่เราจะได้จาก Advanced Génifique Sensitive ขวดนี้เทพสรุปสั้นๆมาให้เเล้วคือ

  • ชุ่มชื้น
  • ผลัดเซลล์ผิวให้ผิวเรียบเนียน ตรงนี้อาจจะช่วยเรื่องสีผิวด้วย
  • ฟื้นฟูผิว
  • ลดริ้วรอย

การที่ของเดิมมีโปรไบโอติก bifidobacterium +Yest Saccharomyces เป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว เเละมีการเพิ่ม Lactibacillus เข้ามาอีกตัว กลายเป็นว่ามีโปรโบไบโอติกถึง 3 ตัว พวกนี้จะเน้นฟื้นฟูผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน รวมไปถึงเพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวได้มากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นเลยไม่แปลกใจที่ทางเเบรนด์จะเน้นไปที่การปลอบประโลมผิวในวันที่รู้สึกถึงความแห้ง คัน แสบร้อน และไม่สบายผิว เอาเป็นว่าเรามาดูผลลัพธ์ ก่อน-หลังใช้กันเลยดีกว่า

ผลหลังการใช้  Advanced Génifique Sensitive  มาราวๆ 2 สัปดาห์กว่าๆ ปรากฏว่าเมื่อเปรียบเทียบภาพถ่ายแล้ว พวกรอยสิวเหมือนจะได้รับการปรนนิบัติเป็นอย่างดี มีความอักเสบ ความแดงน้อยลง ผิวดูชุ่มชื้น มีน้ำมีนวล ส่วนเรื่องผิวฟูนั้นจะสังเกตุได้จากตอนตื่นนอนมากว่า แต่เรื่องลดริ้วรอยอันนี้เทพยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ โดยส่วนตัวแล้วยังไม่มีริ้วรอยให้สังเกตุสักเท่าไหร่ แต่ถือว่าผลโดยภาพรวมประทับใจนะ 

Lancôme Advanced Génifique Sensitive Youth Activating + Sensitivity Soothing Serum คุ้มไหมกับราคา 3,500 บาท/20 ml ตก ml ละ 175 บาท ส่วนตัวมองว่าแพงไปหน่อยนะ ถามว่าน่าใช้ไหม น่าใช้มากกกก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับมุมมองและงบของแต่ละคนร่วมด้วย อย่างตัวเทพถ้าให้คะแนนความเป็นนวัตกรรม ความแพคเกจสวยหรู และสารบำรุงที่เขาแยกบริสุทธิ์มาอย่าง Madecassoside กับ Ferulic acid ก็อาจจะพอพูดได้ว่าคุณภาพสูสีกับราคาอยู่ เนื้อสัมผัสทำได้ดี ผลลัพธ์ที่ได้โดยรวมถือว่าประทับใจ เอาเป็นว่าเทพให้ 9/10 ละกัน ขอหักเรื่องราคานิดนึงพอเป็นพิธี

*** อย่างไรก็ตามรีวิวนี้เป็นผลจากการวิเคราห์ ทดลองใช้กับเทพเพียงคนเดียวและไม่มีอาการเเพ้ ดังนั้นใครที่กลัวเเพ้ แนะนำให้ไปทดลองที่เคาท์เตอร์ลังโคมทุกสาขาได้เลย สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ/ค่ะ


No Comments Yet

Leave a Reply

Your email address will not be published.